รวม-แหล่งรับบริจาคหนังสือ ส่งต่อความรู้สู่ผู้ขาดแคลน

รวม-แหล่งรับบริจาคหนังสือ ส่งต่อความรู้สู่ผู้ขาดแคลน
หนังสือจัดได้ว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ทรงคุณค่าของมวลมนุษย์ สามารถนำมาจดบันทึกข้อความต่างๆผ่านตัวอักษรที่มนุษย์ คิดค้นขึ้นมา ความพิเศษของหนังสืออยู่ที่ว่า สามารถส่งต่อความรู้ความคิดต่างๆให้กันได้โดยไม่จำกัดสถานที่ และไม่จำเป็นต้องชาร์ท อุปกรณ์ไฟฟ้าใดใด
ไม่ว่าในห้องเรียนในมหาวิทยาลัย ความรู้วิชาการต่างๆก็มีการถ่ายทอดจาก ครูบาอาจารย์นักคิดนักวิเคราะห์ ผ่านทางตัวหนังสือ กลายเป็นตำราที่ทรงคุณค่า และสามารถส่งต่อความรู้ไปยังที่ต่างๆได้
หนังสือที่เราไม่อ่านแล้วจะบริจาคได้ที่ไหนบ้าง
ปัจจุบันยังมีน้องน้องเด็กเด็กที่อยู่ในโรงเรียนห่างไกล ที่ยังต้องการแหล่งความรู้ ที่เหลือใช้จาก พวกคุณ โดยเฉพาะหนังสือเรียนที่ผู้คนไม่อ่านไม่ใช้แล้วส่งต่อให้พวกเขาเถอะครับ

โครงการอ่านสร้างชาติ มูลนิธิกระจกเงา บริจาคหนังสือ

บริจาคหนังสือ มูลนิธิกระจกเงา ต้องทำอย่างไรบ้าง

ขั้นตอนการบริจาค ด้วยวิธีต่างๆ ดังต่อไปนี้....
ท่านสามารถนำมามอบเอง -ส่งตามที่อยู่ไปรษณีย์ –บริการขนส่งเอกชน ได้ที่ ณ มูลนิธิกระจกเงาสำนักงานกรุงเทพฯ
มูลนิธิกระจกเงา เลขที่ 191 ซอยวิภาวดี62 (แยก4-7) ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม.10210 (จันทร์-ศุกร์ 09.30-18.00น - เสาร์-อาทิตย์ 10.00-16.00น) *หากต้องการหนังสือขอบคุณให้แจ้งที่ donate@mirror.or.th
ดูแผนที่

บริการรับของบริจาคถึงบ้านท่าน
หมายเหตุ : เงื่อนไขในการออกไปรับถึงบ้าน
1. กรณีเป็นหนังสือขั้นต่ำ 2,000 เล่ม
2. กรณีเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ขั้นต่ำ 10 ชุด
กรณีหน่วยงาน องค์กร หรือบริษัท สามารถส่งรายละเอียดสิ่งของที่ต้องการบริจาค มายัง Email : donate@mirror.or.th

โครงการรับบริจาคหนังสือ

ขอรับบริจาคหนังสือเข้าห้องสมุด

บริจาคหนังสือ มูลนิธิกระจกเงา

บริจาคหนังสือ เชียงใหม่

มูลนิธิอาสาพัฒนาเด็ก เชียงใหม่
มูลนิธิอาสาพัฒนาเด็ก เป็นองค์กรพัฒนาภาคเอกชนที่ดำเนินงานให้การช่วยเหลือและพัฒนา เด็กเร่ร่อนในจังหวัดเชียงใหม่ เริ่มก่อตั้งเมื่อต้นปี 2540 โดยกลุ่มผู้สนใจปัญหาด้านเด็ก คือ นายอนุชน หวลทรง นางสาวนุชนารถ บุญคง ซึ่งมีประสบการณ์การทำงานกับกลุ่มเด็กเร่ร่อน ตั้งแต่ปี 2535 กับกลุ่มสร้างสรรค์เด็กเวียงพิงค์ โดยมูลนิธิอาสาพัฒนาเด็กได้ใช้ชื่อเมื่อเริ่มก่อตั้งว่า”กลุ่มอาสาพัฒนาเด็ก” ได้ดำเนินงานช่วยเหลือและพัฒนาเด็กเร่ร่อนมาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2548 ทางกลุ่มอาสาพัฒนาเด็กได้ยื่นจดทะเบียนมูลนิธิ กระทั่งวันที่ 15 พฤศจิกายน 2548 จึงได้รับอนุญาตให้จัดตั้งเป็นมูลนิธิและได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ มูลนิธิอาสาพัฒนาเด็ก ” The Volunteers for Children Development Foundation.

เชิญติดต่อบริจาคได้ที่
ที่มูลนิธิอาสาพัฒนาเด็ก บ้านพักฟื้นฟูเด็ก เลขที่ 95/1 บ้านแม่ผาแหน ม.6 ต.ออนใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โทร 053-036095 หรือ 089-8506683

บริจาคหนังสือ เรือนจํา

ข้อมูลจาก www.facebook.com/thbooks4prisoners

แนวทางหนังสือที่ต้องการ
• สุขภาพ : โยคะ อาหาร การดูแลตนเอง
• ศิลปะทุกแขนง : วาดรูป ระบายสี งานฝีมือ โครเชต์ งานปัก งานช่าง
• วรรณกรรม : วรรณกรรมเยาวชน-ผู้ใหญ่ เรื่องสั้น บทกวี (ยกเว้นนิยายประโลมโลก)
• การพัฒนาตนเอง : จิตวิทยา พัฒนาความสัมพันธ์ การเป็นพ่อ-แม่
• อาชีพ : การเริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็ก การบริหารการเงิน ฝึกภาษา
• ศาสนา ปรัชญา : พุทธมหายาน วัชรยาน ภิกษุณี ศาสนาอื่นๆ ไม่ใช่ศาสนา เรื่องลี้ลับ และโหราศาสตร์
• ความเป็นไปในสังคม : เรื่องราวชีวิตคนธรรมดาที่น่าสนใจ ความหลากหลายทางเพศ กฎหมายทันสมัย สารคดีท่องเที่ยว เกษตรธรรมชาติ
• หนังสือที่เขียนสำหรับผู้ต้องขังโดยเฉพาะ


หนังสือที่ไม่ต้องการ
- ไม่รับหนังสือธรรมะแจกฟรี
- หนังสือหมดอายุ เช่น กฎหมายเก่า คอมพิวเตอร์เก่า
- หนังสือไกด์บุ๊คที่มีแต่รายชื่อโรมแรม สถานที่เที่ยว
- หนังสือเก่า ขาด กระดาษเหลือง
• • หนังสือธรรมะ (มีเยอะมากแล้ว ถ้าจะส่งมาอยากให้เลือกเล่มดีๆ จริงๆ ไม่เกิน 5 เล่ม)
• • หนังสือนิยาย (มีเยอะมากแล้ว ถ้าจะส่งมาอยากให้เลือกเล่มดีๆ จริงๆ ไม่เกิน 5 เล่ม)

**ไม่รับนิตยสาร**
ยกเว้น สารคดี /ค.ฅน /way /science illustrate /national geography /a day

หมายเหตุ
- สามารถอีเมลรายชื่อหนังสือเข้ามาสอบถามก่อนได้ที่ อีเมล once.a.studio@gmail.com
- หนังสือเด็กและเยาวชน เรามีคัดส่งไปให้น้องๆ ที่บ้านพักฉุกเฉินดอนเมืองและบ้านกาญจนาด้วย
- หนังสือที่ไม่ผ่านการคัดเลือกจะถูกนำไปชั่งกิโลขาย หรือบริจาคต่อโครงการที่น่าสนใจ เช่น กล่องแจกหนังสืออ่านฟรีตามสวนสาธารณะ โครงการอ่านสร้างชาติ มูลนิธิกระจกเงา ฯลฯ

:: เปิดรับเรื่อยๆ ::
• อาสาสมัครจะคัดแยกหนังสือแล้วส่งต่อไปเรือนจำ
• ไม่เน้นว่าต้องส่งมาเยอะๆ ให้ส่งเล่มที่แจ๋วๆ มาก็พอนะ

:: ส่งพัสดุไปรษณีย์มาที่ ::
โครงการแบ่งปันหนังสือเข้าเรือนจำ
นภา ธรรมทรงศนะ 21/16 ซ.ชวกุล ถ.รางน้ำ ราชเทวี กรุงเทพ 10400
* รับเฉพาะทางไปรษณีย์ POST ONLY
** กรุณาอย่าส่ง EMS เพราะบุรุษไปรษณีย์จะมาส่งอาทิตย์ละครั้งอยู่ดี 

บริจาคหนังสือให้ห้องสมุด

ศูนย์รับบริจาคหนังสือและวารสารห้องสมุดสตางค์ มงคลสุข
ห้อง P102 ชั้น 1 อาคารฟิสิกส์
งานสารสนเทศและห้องสมุดสตางค์ มงคลสุข คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
เลขที่ 272 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทร : 02-201-5717 โทรสาร : 02-354-7144

สามารถดำเนินการได้ดังนี้
กรณี บริจาคด้วยตนเอง โดยมาติดต่อโดยตรงกับศูนย์รับบริจาคหนังสือและวารสารห้องสมุดสตางค์ มงคลสุข ในวันเวลาทำการ ที่ห้อง P102 ชั้น 1 อาคารฟิสิกส์ (อาคาร P)
กรณีบริจาคทางไปรษณีย์ โดยจ่าหน้าซองตามที่อยู่  ดังนี้
กรณีติดต่อให้ทางศูนย์ฯ ไปรับสิ่งพิมพ์  ทางห้องสมุด ขอสงวนสิทธิ์เฉพาะหน่วยงาน ที่เป็นองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน โดยจะพิจารณาจากสิ่งพิมพ์และหน่วยงานตามความเหมาะสมและความจำเป็นของผู้บริจาคตามกรณี
กรณีทางจดหมาย  โดยให้ผู้มีความประสงค์ขอรับบริจาคสิ่งพิมพ์เข้าหน่วยงาน ทำหนังสือติดต่อมาที่ห้องสมุด โดยในจดหมายระบุหน่วยงาน รายละเอียดที่ต้องการขอรับบริจาค หรือโครงการที่ดำเนินการ ได่แก่ ชื่อโรงเรียน ระดับชั้นการศึกษา จำนวนนักเรียน  โดย จ่าหน้า “ เรียน หัวหน้าห้องสมุดสตางค์ มงคลสุข “  ทั้งในจดหมายและ ที่หน้าซอง พร้อมระบุที่อยู่ของห้องสมุด

มาด่วน! ร้านอาหารมังสวิรัติจตุจักร ลาดพร้าว ทองหล่อ สุขุมวิท สยาม พระราม 9 เลือกได้เลยตามใจชอบ

ครั้งนี้เราจะมาแนะนำคนที่ชื่นชอบ ร้านอาหารมังสวิรัติจตุจักร ลาดพร้าว ทองหล่อ สุขุมวิท  สยาม พระราม 9  กันเลย จริงๆแล้วอาหารมังสวิรัตินั้นสามารถทานได้ทั้งปี ไม่จำเป็นว่าต้องเข้าหน้าไหนเทศกาลไหนถ้าชื่นชอบก็จัดไป โดยเฉพาะสำหรับคนรักสุขภาพ ต้องการหลีกเลี่ยงอาหารเนื้อสัตว์ที่มี สารเคมีถ้าหันมา ทานทานผัก ทานถั่วเหลือง ทางเลือกอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี
สำหรับบางคนที่มีเวลาสูตรอาหาร ทำเมนูอาหารเจ  กินเองที่บ้านก็ดี เพราะคุณสามารถสรรวัตถุดิบที่ถูกต้องตรงตามใจได้เลย  แต่อย่าลืมว่านอกจากคุณจะมีสูตรทำอาหารแล้ว คุณต้องมีเวลาในการทำเมนูอาหารเจ นั้น แต่สำหรับคนที่ไม่มีเวลามานั่งทำอาหารเหลวฝีมือยังไม่ถึงขั้นการที่ออกไปหาร้านอาหารต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทำได้ง่ายเช่นกัน

เริ่มแนะนำร้านอาหารมังสวิรัติจตุจักร ลาดพร้าว ทองหล่อ สุขุมวิท  สยาม พระราม 9 กันเลย

ร้านอาหารมังสวิรัติจตุจักร ลาดพร้าว
ชมรมมังสวิรัติ จตุจักร  (พลตรีจำลอง)  :  ร้านนี้บอกได้เลยว่าเปิดทำการมาแล้วอย่างยาวนาน และเป็นที่ชื่นชอบเป็นการส่วนตัวตัวของผมเองครับ เพราะว่างด้วยความที่ใกล้สวนจตุจักร สามารถไปออกกำลังกายเสร็จแล้ว หลังจากนั้นก็มาทานที่นี่ได้ และที่สำคัญอาหารมังสวิรัติ อาหารเจ ที่นี่ราคาถูกมาก ย้ำว่าถูกมาก และอร่อยถูกปากผมเป็นอย่างดี อิ อิ
581/590 ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร    โทร  02-272-4282

ร้านอาหารมังสวิรัติ พระราม 9
อโณทัย  :  ถ้าใกล้พระราม9 ผ่านมาแถวนี้และชื่นชอบอาหารมังสวิรัติคุณภาพสไตล์ไฮโซ มาที่นี่ได้เลย ที่เด็ดก็คือเค้ามีผักสดไว้บริการ และ มีผักสดที่ปลูกเองมีการดูแลรักษาความสะอาดเป็นอย่างดี สามารถนำมาปรุงอาหารได้ทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง เช่น น้ำพริกอ่องเต้าหู้-ผักชี สาหร่ายพันเต้าหู้ คู่กับวาซาบิ สปาเก็ตตี้ขี้เมา ข้าวผัดกะเพาะมังสวิรัติ ข้าวผัดคะน้าปลาเค็ม ร้านจะปิดทุกวันพุธครับ ร้านจะอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลพระราม9 โทร 02-641-5366

ร้านอาหารมังสวิรัติ ทองหล่อ สุขุมวิท
คุณเชิญ สุขุมวิท42   :  ร้านนี้ดังยาวมาจากเชียงใหม่เลยจร้า มีคนลูกค้าเยอะ เลยขยายสาขามาเปิดที่สุขุมวิทซะเลย ภายในร้านอาหารมังสวิรัติ คุณเชิญ จะมีการตกแต่งออกแนวโมเดิร์น สะอาดๆ ร้านนี้ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัตถุดิบในการปรุงอาหานมาก ต้องสะอาด ปลอดภัย โดยใช้ผักปลอดสารพิษ ข้าวกล้อง ไม่ใส่ผงชูรส ไม่เน้นแป้ง ตามคอนเซ็ปต์ healthy food, good life เมนูแนะนำ เช่น ข้าวผัด แกงเผ็ดเป็ดย่าง แกงส้ม ข้าวซอย ขนมจีนน้ำเงียว น้ำตก ลาบ ส้มตำ กระเพาะปลาผัดแห้ง และพลาดไม่ได้กับ เต้าหู้แพนเซีย  โทร  02-713-6599

ร้านอาหารมังสวิรัติ สยาม
KOKO อาหารไทยและมังสวิรัติ  :  ไหนไหนก็มาเดินช้อปปิ้งย่านใจกลางกรุงเทพแล้วที่สยามสแควร์ ขอแวะมาทานร้านอาหารมังสวิรัติสยาม เพื่อสุขภาพกันเลย เป็นไอเดียที่ดีนะ อิ อิ ร้านที่จะแนะนำนี้เปิดมาให้บริการยาวนานกว่า 15 ปีแล้ว เป็นอาหารไทยไทยนี่แหละ แต่ทำแบบมังสวิรัติเน้นรสชาติจัดจ้านถูกปากคนไทยแซ่บหลาย นางฟ้าพิเศษ (เห็ดนางฟ้าชุบแป้งทอด), ลาบเต้าหู้, ยำไส้กรอก, เต้าหู้กระเพรากรอบ, สปาเก็ตตี้ผัดพริกเห็ด(สปาแดดเดียว)   KOKO อาหารไทยและมังสวิรัติ @ ซอย สยามสแควร์ 3 แขวง ปทุมวัน เขต ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เปิดทุกวัน 11:00 - 21:00 น. โทร 02-658-4094

เรามีเหตุผลมากมายหลายหลากที่จะใช้ดำเนินชีวิตแตกต่างกันไป บางคนมีวิถีชีวิตในการกินอยู่ แบบเรียบง่ายไม่รู้หรา แต่บางคนต้องการกินอยู่แบบราชา บางคนชอบทานเนื้อสัตว์ บางคนชอบทาน อาหารเจ อาหารมังสวิรัติ อันนี้ไม่ว่ากันแล้วแต่ชอบ

แต้ม

[KK Topic : แต้ม]

ในวันหนึ่ง ๆ มนุษย์มีความคิดเกิดขึ้นในหัวไม่ต่ำกว่า 3 – 4 หมื่นเรื่อง หากเปรียบความคิดนั้นเป็นจุดสีก็จะมีจุดสีแห่งความรัก เงินทอง ครอบครัว เพื่อนฝูง และจุดสีอื่น ๆ เกิดขึ้นมากมายจนเต็มผืนผ้าใบ ส่วนจะสวยงามหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของความคิดว่าจะสามารถจัดสรรจุดสีเหล่านั้นให้เกิดเป็นภาพป่าเขาหรือพื้นที่แห้งแล้ง ภาพต้นไม้หรือตอไม้ ภาพสวรรค์หรือนรก

การที่ศิลปินสามารถแต่งแต้มจุดสีลงบนผืนผ้าใบให้เกิดเป็นรูปภาพอันแสนวิจิตรสวยงาม จนสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้รับชมได้นั้น ต้องผ่านการฝึกฝนจิตใจภายในตัวศิลปินให้สามารถเชื่อมโยงกับโลกภายนอกได้ตามทัศนคติและมุมมองที่มีอยู่ในขณะนั้นอย่างหนัก จนสามารถเรียงจุดสีเป็นเส้นสายและกลายเป็นรูปภาพได้ตามต้องการในที่สุด

เราทุกคนต่างมีผืนผ้าใบเป็นของตนเองที่สามารถแต่งแต้มให้สวยงามหรือเลอะเทอะเพียงใดก็ได้ แต่มีกฎข้อหนึ่งที่เรามักไม่สนใจทั้งที่ทราบกันดีก็คือ

‘ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ถ้าวาดผิด’

เมื่อวาดผิดมีทางแก้เพียงทางเดียวคือการวาดต่อเติมจากจุดที่ผิดให้กลายเป็นรูปอื่น ผ้าใบของใครหลายคนจึงเปรอะเปื้อนไปด้วยจุดสีแก้ไขซึ่งต้องแลกกับเวลาและความรู้สึกที่เสียไปกับการแก้ไขนั้น แต่ก็จะได้กฎอีกข้อหนึ่งเพิ่มขึ้นมาก็คือ

‘แม้ว่ารูปจะไม่เหมือนตามที่ใจคิดแต่มันก็จะเป็นไปตามความจริงที่เกิดขึ้น’

ผ้าใบอาจเรียบร้อยสวยงาม อาจดูไม่ออกว่ามันคือรูปอะไร อาจเต็มไปด้วยรอยแก้ไขมากมาย แต่ไม่มีใครเลยที่จะไม่เคยแต้มสีแก้ไขเพราะไม่มีใครเลยที่จะสมบูรณ์แบบนอกเสียจากว่าผืนผ้าใบนั้นเป็นผืนผ้าใบที่ ‘ไร้การแต้มสีใด’

ทางแก้ไขที่ดีที่สุดก็คือการป้องกันให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด ทั้งจากการรับฟังผู้มีประสบการณ์ ทั้งจากการดูตัวอย่างผืนผ้าใบอันอื่น ทั้งจากการทดลองแต้มสีที่อื่นก่อนแต้มจริง ทั้งจากการเลียนแบบการแต้มสีของคนอื่น

ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับการแก้ไขเพราะชีวิตยังมีสีไว้ให้แก้ไขเสมอ บางคนที่มีสีทึมทะมึนมาตลอดชีวิตอาจโชคดีได้พบสีแห่งความรักที่แสนสวยงามจากผู้ช่วยศิลปินที่มาช่วยแต่งแต้มให้ ซึ่งเป็น ‘สีแห่งความหวัง’ ที่ทุกคนต้องการมาตลอดชีวิตและออกเดินทางตามหามันด้วยความหวังนั้น

ความมืดสวยงามได้เมื่อมีแสงดาวแต้ม ทุ่งหญ้าสดชื่นขึ้นเมื่อมีดอกไม้เบ่งบาน ความสวยงามเพียงเล็กน้อยช่วยแต่งแต้มภาพพื้น ๆ อันแสนธรรมดาให้สดใสสวยงามขึ้นได้อย่างน่ารื่นรมย์

หากเปรียบภาพสีทึบ ๆ ธรรมดา ๆ เป็นชีวิตของผู้ชายหนึ่งคน การมีสีสดใสสว่างของผู้หญิงอีกคนหนึ่งมา ‘แต้ม’ ลงบนภาพนั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ชีวิตของผู้ชายคนนั้นสวยงามและมีความหมายมากขึ้นกว่าเดิม

A.nonnawin