KK Topic : จง อยู่ อย่าง อยาก
ในวันที่เจอลุงแซกท่าพระจันทร์
ชาว KK ได้ไปต่อกันที่ร้านกาแฟแถวถนนพระสุเมรุก่อนไปกินข้าวเย็นและกลับบ้าน
จนเมื่อวานนี้ (22 ต.ค.56) เอสสาวได้กลับไปเยือนที่ร้านนั้นอีกครั้งและนั่งคุยกับเจ้าของร้านอยู่เกือบ
10 ชั่วโมง!!! อ่านไม่ผิดหรอกครับด้วยเวลาขนาดนี้สามารถนั่งรถทัวร์ไปเชียงใหม่
กินข้าวซอยลำดวน แล้วตบตูดด้วยกาแฟวาวีซอยมังกี้ได้สบาย ๆ
ปกติชาว KK นั่งสุมหัวกันได้เต็มที่ไม่เกิน
4 ชั่วโมงก็ต้องแยกย้ายไปทำภารกิจส่วนตัวกันแล้ว
แต่เมื่อวานเกิดเหตุสุดวิสัยเพราะเจ้าของร้านไม่ยอมปล่อยให้นักกีตาร์โปร่งขั้นเทพที่มีเสียงร้องระดับนางฟ้าอย่างเอสสาวของเรากลับบ้านไปได้ง่าย
ๆ เอสหนุ่มผู้โดนลากมานั่งด้วยเลยต้องอยู่เป็นเพื่อนจนได้รับอิสระ แต่การนั่งคุยกับพี่เค้าก็ทำให้ได้แง่คิดชีวิตมากมายจนกลายเป็นที่มาของ
KK Topic ในวันนี้
บ่ายแก่ ๆ เอสหนุ่มต้องไปเอารถยนต์ที่อู่แถวแยกพิชัย
ขากลับคิดว่าจะแวะร้านกาแฟที่นั่งมาราธอนกันเมื่อวาน (ไม่เข็ด) แต่โชคชะตาก็ได้พาให้พบกับร้านกาแฟสุดแนวที่ห่างกันแค่เพียง
4 คูหากั้นเท่านั้น
เมื่อเปิดประตูร้านเข้าไปก็ได้พบกับหนังสือมากมายถูกวางอยู่บนชั้นข้างกำแพงทั้งสองด้าน
ตามด้วยข้างบันได ต่อด้วยริมหน้าต่าง
ขึ้นไปจนถึงชั้นสองซึ่งเป็นที่นั่งดื่มกาแฟของร้าน แถบหนึ่งของกำแพงมีหนังสือเรียงกันเป็นตับ
อีกแถบหนึ่งมีรูปภาพสำหรับขายเต็มกำแพง ทำให้เกิดความสงสัยว่าร้านนี้เป็นร้านขายหนังสือ
หรือร้านขายกาแฟ หรือร้านขายรูปกันแน่ (วะ)
ความกลมกลืนกันระหว่างเพลงแนวศุ
บุญเลี้ยงที่เคล้าคลอกับกลิ่นหนังสือผสมกับเอกลักษณ์ในการตบแต่งร้านอย่างมีศิลปะได้สร้างบรรยากาศและมุมสวย
ๆ ไว้หลายมุม หลังจากที่เอสหนุ่มถ่ายรูปแบบถูกใจตามหลักกูแต่ไม่ถูกต้องตามหลักการเสร็จแล้วก็ได้คุยกับเจ้าของร้านเล็กน้อย
พอพูดคุยกันเสร็จก็นั่งดื่มหนังสืออ่านกาแฟ
เอ๊ย!! ดื่มกาแฟอ่านหนังสือ
ระหว่างนั้นก็สงสัยว่าร้านหนังสือเล็ก ๆ แค่หนึ่งคูหา ไม่ได้อยู่ในห้าง
ไม่มีสื่อประชาสัมพันธ์อะไร อยู่มาได้ยังไงตั้งสิบปีนะ?
ความสงสัยทำให้นึกถึงบทสนทนากับพี่เจ้าของร้านกาแฟเมื่อวานนี้
ซึ่งนอกจากพี่เค้าจะเป็นเจ้าของร้านกาแฟแล้ว ยังเป็น บก.นิตยสารเล่มหนึ่งที่มีสำนักงานใหญ่อยู่แถวถนนพระอาทิตย์ด้วย..
รู้จักหอยทากกันใช่มั้ยครับ
หอยทากมันรู้นะว่าจะคลานไปไหน แล้วมันก็คลานไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงที่หมาย โดยไม่สนใจแม้แต่นิดว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่
จะโดนรถเหยียบมั้ย จะเดี้ยงระหว่างทางรึเปล่า...ฟังดูดีเนอะ..น้องหอยทากช่างมุ่งมั่นและมีความเพียรเหลือล้นจริง
ๆ
แต่พี่เค้าบอกว่าไม่อยากมีชีวิตแบบหอยทากเพราะการทำตามความอยากบางอย่างมันเป็นการสูญเปล่าทั้งเวลาและเงินทอง
หอยทากอาจจะคลานไปได้จนถึงจุดหมาย แต่ในระหว่างที่คลานมันจะ ‘ไม่ได้อะไรเลย’
เพราะมันมุ่งที่จะคลานเพียงอย่างเดียว แต่ไม่มีการศึกษาเรียนรู้วิธีคลานให้เร็วขึ้น
ไม่มีการหาเส้นทางที่ปลอดภัย ไม่มีการเพิ่มทักษะการคลานให้เหนื่อยน้อยลง
ไม่พัฒนาชีวิต
มนุษย์เป็นสัตว์ที่ใช้สมองมากกว่ากำลัง
แต่บ่อยครั้งที่มนุษย์ยอมหมดเวลา
หมดเงินไปกับความอยากที่สูญเปล่าและไม่ช่วยให้ชีวิตพัฒนาขึ้น ในขณะที่มนุษย์อีกกลุ่มหนึ่งเลือกที่จะหมดเงินและเวลาไปกับความอยากที่พัฒนาชีวิตจนประสบความสำเร็จ
แล้วจึงหันกลับมาสนองความอยากที่ไม่พัฒนาชีวิตอย่างการกินเหล้า เที่ยวกลางคืน แทงบอล
ลุ้นหวย ลงอ่าง ฯลฯ
พี่เค้าเป็นมนุษย์กลุ่มนั้นครับ
แล้วทุกวันนี้พี่เค้ามีครอบครัวที่อบอุ่น มีงานที่รัก มีร้านกาแฟส่วนตัว มีเงินและเวลาไว้สนองความอยากตัวที่สองจากการดื่มไวน์ราคาแพง
เที่ยวผับหรูได้อย่างสบาย แถมมีเหลือมากพอที่จะแบ่งปันให้กับสังคมอีกด้วย..
เล่ามาจนจะจบแล้วสงสัยมั้ยครับว่ามันเกี่ยวกับหัวข้อและร้านกาแฟร้านนี้ตรงไหน?...ลองสังเกตดูสิครับมันถูกเฉลยไปหมดแล้วล่ะ..
A.nonnawin